การจัดการศพ ของ พระครูวรนาถรังษี (ปุย ปุญฺญสิริ)

หลังละสังขาร คณะศิษย์ประชุมและมอบหมายให้ พระปลัดสกล ปญฺญาพโล (ภายหลังมีสมณศักดิ์ที่ พระครูสุวรรณปัญญารัต) รักษาการเจ้าอาวาสวัดเกาะในขณะนั้น เป็นประธานจัดการเรื่องงานศพ เริ่มจากอัญเชิญสรีระสังขารหลวงพ่อปุยกลับสู่วัดเกาะในวันเดียวกัน (8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523) มีพิธีสรงน้ำศพที่กุฏิหลวงพ่อปุย วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523

พิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม เวลากลางคืน ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2523 , วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523 ครบ 7 วัน (สัตตมวาร) , วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2523 ครบ 50 วัน (ปัญญาสมวาร) , วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2523 ครบ 100 วัน (ศตมวาร)[2]

หลังครบ 100 วัน (ศตมวาร) จึงกำหนดเก็บสังขารของท่านไว้ก่อน เพื่อให้ร่างได้อยู่ทันสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ท่านเริ่มโครงการไว้ให้ศิษย์ช่วยกันสานต่อให้แล้วเสร็จ กระทั่งเมื่อศาลาการเปรียญสร้างเสร็จ จึงอัญเชิญสรีระสังขารขึ้นประดิษฐาน วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2527

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2530 เวลา 16.00 น. อัญเชิญสรีระสังขารจากศาลาการเปรียญขึ้นสู่ฌาปนสถานชั่วคราว (เมรุลอย 5 ยอด) ซึ่งตั้งอยู่ที่ลานหน้าศาลาการเปรียญ กลางคืนมีพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม , วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2530 พระสงฆ์สวดมาติกา บังสุกุล ศราทธพรตคาถา เวลา 16.00 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ , วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2523 ช่วงเช้า มีพิธีสามหาบ เก็บอัฐิ[6]

รูปเหมือนบรรจุอัฐิหลวงพ่อปุย บนศาลาการเปรียญวรนาถรังษี วัดเกาะ